
มอบโลกใบที่ดีกว่า ด้วยการออกแบบหมุนเพื่อความยั่งยืน
“การบริโภคของเราในทุกคราว คือการคัดเลือกโฉมหน้าให้กับโลกใบนี้” ไม่เพียงแต่เป็นผู้บริโภค ยังมีนักออกแบบมากขึ้น กำลังมุ่งหน้าที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับโลก
อดีตที่ผ่านมาของไต้หวันในช่วงยุค 60 มีการขึ้นชื่อเรื่องอุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมแปรรูปพลาสติกโดยแรงงานที่ก่อตัวขึ้นมาในช่วงนั้น จนถึงยุค 90 ได้มีอุตสาหกรรมไฮเทคของเครื่องคอมพิวเตอร์และโรงงานผลิตชิป ซึ่งได้เข้ามาหยิบใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมหมดอย่างสิ้นเชิง จึงมีปัญหาสาธารณภัยสิ่งแวดล้อมจากรัฐไต้หวัน ในประวัติการพัฒนาที่ผ่านมาให้ได้ยินเป็นครั้งคราว ทั้งนี้แล้ว, ตามการแปลงผันของยุคอุตสาหกรรมในต่อมานี้ ไต้หวันก็ได้ก้าวสู่ยุคที่นำแนวคิดความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม มาเป็นแนวทางส่วนหนึ่งในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรม เพราะหวังว่าจะได้มอบโลกใบที่สะอาดให้กับคนรุ่นต่อไปได้
ยังไม่เพียงแต่เป็นผลิตภัณฑ์ ยังมีบรรจุภัณฑ์ของสินค้า จากเดิมที่ลดการใช้วัสดุพลาสติก เปลี่ยนมาเป็นการแก้ไขกระบวนการผลิตของสินค้า ให้แนวทางเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม และการออกแบบหมุนเวียนบรรลุการใช้งานได้ในชีวิตประจำวันของทุกคน
ด้วยเหตุนี้ รางวัล Golden Pin Design Award ที่มีอิทธิพลในวงการจีน จึงมีรางวัลการออกแบบหมุนเวียนวัสดุเพื่อความยั่งยืน อยู่ในรางวัลพิเศษประจำปี เสริมสร้างกำลังใจให้กับนักออกแบบผู้เข้าแข่งขัน ให้คอนเซ็ปท์การหมุนเวียนและความยั่งยืน มาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบในผลงาน และผลงานที่ได้รับรางวัลพิเศษประจำปี 2021 นี้ ได้คัดเลือกผลงานสองชิ้นขึ้นมา นอกจากจะได้เสนอประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังหวังที่จะใช้การออกแบบ ให้เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงกับทุกคนในการเลือกซื้อสินค้าบริโภค
ลงทุนน้อย ใช้เพียงเทคนิคระดับตำ่ ด้วยวิธีการการเพาะปลูกอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด : กระถางเพาะชำ ZenZhou Water-Storing
ภาวะโลกร้อนได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น และวิธีการ “ปลูกต้นไม้ช่วยโลก” กลุ่มเคลื่อนไหวรักษาสิ่งแวดล้อมไต้หวัน ได้ลงทุนกับการปลูกป่าชายเลนตามแนวชายฝั่งมานานหลายปี ซึ่งการเพาะปลูกต้นกล้าระยะแรกต้องการถาดต้นไม้เพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ต้นกล้า พร้อมกำบังคลื่นลมแรง, แสงอาทิตย์ และวัชพืชตามแนวชายฝั่ง เพิ่มอัตราการอยู่รอดของต้นกล้าได้
ถึงอย่างนั้นแล้ว ถาดปลูกต้นไม้โดยทั่วไปมักจะใช้วัสดุพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ ที่คิดว่าจะปลูกต้นไม้ในการลดคาร์บอน กลับทำให้เกิดขยะพลาสติกไปมากขึ้น ฉะนั้นได้มีธุรกิจเพื่อสังคมอย่าง ZEN ZHOU ที่ลงทุนในโครงการลด-เลิกใช้พลาสติกมาเป็นระยะยาว กับกลุ่มเคลื่อนไหวรักษาสิ่งแวดล้อม ร่วมกันพัฒนากระถางเพาะชำที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ — กระถางเพราะชำต้นกล้า ZenZhou Water-Storing
ใช้เยื่อกระดาษจากการรีไซเคิลมาเป็นร่างกระถาง และภายหลังระยะหนึ่งปี ใช้ชีววิทยาตามธรรมชาติให้ย่อยสลายลงไปในดิน ถัดมาคือ ก่อนหน้านี้การเพาะปลูกต้นกล้าได้ห่างออกจากริมทะเล เส้นสายน้ำเข้าไม่ถึง จึงต้องส่งรถบรรทุกน้ำกลับมารดน้ำ กระถางเพราะชำต้นกล้า ZenZhou Water-Storing จัดวางเชือกสองเส้นมาใช้ในการเลี้ยงนำ้หยด เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ต้นกล้าได้ และทุกครั้งหลังรดนำ หรือหลังฝนตกจะจัดเก็บนำ้ความจุได้ถึง 15 ลิตร นอกจากจะได้ลดต้นทุนที่ใช้รถบรรทุกกลับมารดน้ำแล้ว ทั้งนี้ยังได้เพิ่มอัตราการปลูกต้นไม้บนชายฝั่งอีกด้วย
กล่องเพคเก็จครีมบำรุงผิวที่นำโชว์เนื้อตัวสินค้าออกมาอย่างซื่อตรง : SKINeed Packaging of Products จาก THAT iS CREATIVE & BRANDING
ต่างจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอันมีแพคเก็จที่ซับซ้อนที่เห็นได้ตามทั่วไป แบรนด์ดูแลผิวไต้หวัน SKINeed ได้เปลี่ยนแบบบรรจุภัณฑ์ดั่งเดิม แทนการนำกระดาษรีไซเคิลฉีดขึ้นรูปเป็นกล่องกระดาษพลาสติกร่างเดี่ยว ลดการใช้พลาสติก พร้อมทำให้การแกะกล่องแพคเก็จจนถึงการรีไซเคิลมีขั้นตอนที่ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ให้แน่ใจว่ากล่องกระดาษและขวดแก้ว จะนำมารีไซเคิลหรือหมุนเวียนใช้ซ้ำได้
สิ่งพิเศษที่ขาดไม่ได้ก็คือ เมื่อ SKINeed นำครีมบำรุงย้ายไปอยู่ในที่จัดเก็บอุณหภูมิตำ่ จะมีคุณสมบัติที่ช่วยลดอัตราการสลายของสารออกฤทธิ์ ทีมการออกแบบ THAT iS CREATIVE & BRANDING ก็ได้ริเริ่มแนวคิดจาก “การเปิดเผยที่โปร่งใสของบรรจุภัณฑ์ เป็นเช่นกับของสดในตู้แช่ที่มาตั้งขายในเวลาที่กำหนด” นำแพคเก็จการออกแบบของอาหารมาเป็นแบบอย่าง โดยใช้การฉีดขึ้นรูปเป็นกล่องร่างเดี่ยว ให้ไม่มีรอยต่อระหว่างช่องปิด “บรรจุภัณฑ์ที่ย้อนกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้หลังจากที่เปิด อย่างภาพลักษณ์ ‘สดใหม่’ ที่ได้เก็บมิดไว้ให้สมบูรณ์” แล้วยังสามารถมองเห็นรายละเอียดสินค้าทั้งหมดอย่างโปร่งโล่งผ่านด้านหน้าได้ ผูกคล้องกับแนวคิดแบรนด์ที่มีความสัตย์ซื่อแจ่มชัดต่อสินค้า ตามทาง SKINeed คาดหวังให้ผู้บริโภคจะได้รับ
การออกแบบหมุนเวียน ไม่จำเป็นที่จะใช้เทคโนโลยีล้ำเลิศ สิ่งสำคัญคือนักออกแบบได้พิจารณาถึงการเลือกใช้วัสดุ คำนึงถึงแบบจำลองธุรกิจ จนส่งผลกับผลการใช้งานของผู้บริโภคได้ ให้ผู้คนที่ได้ซื้อหรือได้ใช้ทรัพยากรนั้น ได้ตระหนักรู้ในการใช้สอยได้ จึงจะนำพาให้ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมลุล่วงเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกคนได้